ความจริงของคู่จิ้น "อยากเป็นคนแรก"
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเลอะ”
ถึงปากจะว่าอย่างนั้น แต่ตากลับจ้องก้อนเค้กไม่วาง ผมเลยอ้อนอีก
อ้อนอีก เดี๋ยวก็ใจอ่อนเอง
“น๊า นะครับ” ได้ผล นิ้วขาวป้อมจิ้มลงไปปาดเอาครีมบนหน้าเค้กขึ้นมา ยื่นมาหาผมช้าๆ ผมอ้าปากรับ จงใจแกล้งตวัดลิ้นเลีย ตั้งแต่ปลายนิ้วลงไปจนสุด แล้วก็ค่อยๆครอบปากดูดกินครีมเชื่องช้า จนเจ้าตัวชักมือหนี
“น๊า นะครับ” ได้ผล นิ้วขาวป้อมจิ้มลงไปปาดเอาครีมบนหน้าเค้กขึ้นมา ยื่นมาหาผมช้าๆ ผมอ้าปากรับ จงใจแกล้งตวัดลิ้นเลีย ตั้งแต่ปลายนิ้วลงไปจนสุด แล้วก็ค่อยๆครอบปากดูดกินครีมเชื่องช้า จนเจ้าตัวชักมือหนี
“หึหึ หวานจัง งั้นพี่ขอป้อนคริสบ้างนะ”
ผมจุ่มนิ้วลงไปบนหน้าเค้กบ้าง เป้าหมายคือริมฝีปากชมพูอวบอิ่ม
ลิ้นเล็กแลบออกมาแตะๆเลียๆเล็กน้อย ก่อนที่จะอมนิ้วผมเข้าไป… ทั้งนิ้ว
เชี่ย!!!
ผมได้แต่สบถเบาๆในใจ ไม่ไหว ในหัวผมกำลังจินตนาการเป็นอย่างอื่น
และอย่างอื่นที่ว่า มันก็กำลังแข็งขืนขึ้นมา ผมไม่กินเค้กแล้วได้มั้ย ขอกินคนทำเค้กเลย
ไวเท่าความคิด ผมชักนิ้วออกจากปากแล้วแทนที่ด้วยจูบ
อีกฝ่ายดูตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ต่อต้าน ผมเลยจูบลึกลงเรื่อยๆ เอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่งลิ้นเข้าไปหยอกเย้ากับลิ้นอีกฝ่ายเล่น หวานเหลือเกิน นุ่มนวลเหลือเกิน
อาจดูเว่อร์ไปนิดหากผมจะบอกว่ารสปากของคริสหวานกว่าเค้กอีก
แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ
“อืมมม” เจ้าตัวก็ดูจะพอใจกับรสจูบของผม กอดคอแน่นไม่ยอมให้ห่าง ผมเลยปล่อยมือข้างที่ล็อคคอเค้าไว้
เปลี่ยนมาเป็นไล่ปลดกระดุมเสื้อ ทีละเม็ดๆ
ปลดเสร็จผมก็ถอนจูบออกมาซุกไซร้ซอกคอต่อ
เจ้าตัวก็เอียงคอเปิดทางให้ หอมเหมือนที่จินตนาการไว้เลย
ผมไล่ดมไล่หอมไปทั่วอย่างไร้ทิศทาง อยากกลืนกินคริสเข้าไปทั้งตัวเลยตอนนี้
ถูไถส่วนอ่อนไหวที่กำลังขยายไปกับท่อนขานุ่ม
อยากเข้าไปเหลือเกิน อยากสัมผัส อยากโดนรัด ขณะที่ผมเลื่อนหน้าลงต่ำ กำลังจะครอบปากดูดตุ่มไตสีหวานที่แสนคิดถึงนั้น
เจ้าตัวก็ห้ามไว้ ยกมือขึ้นมาปิด
“ที่รัก พี่ไม่ไหวแล้วนะคะ”
ผมอ้อนเสียงพร่า ส่งสายตาเว้าวอน แกล้งผมหรอ ขอร้องล่ะ อย่าแกล้งเลย
ตากลมโตจ้องมองผมอย่างสงสาร ก่อนจะเลื่อนออกมองไปที่ประตู เท่านั้น ผมเข้าใจทันที
.......
พี่สิงเดินไปล็อคประตูห้องจากทางด้านใน
ก่อนจะกลับมายืนที่เดิมด้วยความรวดเร็ว พอรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิด
ผมก็เขินจนร้อนเนื้อร้อนตัวไปหมด ถึงจะเตรียมความพร้อมมาสำหรับคืนนี้แล้ว
แต่ผมก็ไม่ได้คิด ว่ามันจะเกิดขึ้นตรงนี้ บนโต๊ะกินข้าว…
เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ที่ผมพึ่งจะใส่ก่อนที่พี่เขาจะมาถึง
ถูกปลดร่วงลงกองกับพื้น มือซุกซนข้างนึงเลื่อนลงต่ำ จับของสำคัญที่อยู่ใต้กางเกงผม
ริมฝีปากบางหยักได้รูป ไล่จูบซับมายังจุดเดิมกลางอก ก่อนที่จะครอบลงไป
“ฮื้อออ” และทันทีที่ลิ้นสัมผัส ร่างกายผมก็บิดเร้าอย่างห้ามไม่ได้
“ต้วน” เผลอจิกกำผมอีกฝ่ายแน่นเพื่อระบายความรู้สึก พี่สิงเลยอาศัยจังหวะนี้ที่ผมยกสะโพกขึ้น
รูดถอดกางเกงออกไปรวดเดียวจนหมด มืออุ่นเลื่อนกลับมาสัมผัสส่วนอ่อนไหวของผมที่เดิมอีกครั้ง
รูดรั้ง ขึ้นลง โดยที่ปากก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างดี
จากที่แค่ขบเม้ม หยอกเย้า ก็เริ่มดึง เริ่มดูด
จนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังสะท้อนขึ้นมาในห้อง ผมขยับเข้าหาคนที่ทำตัวเป็นเด็กหิวเรื่อยๆ
แนบอกไปกับปาก อยากจะป้อนให้หายอยาก
แรงดูดกับแรงชักเริ่มทำงานประสานกันหนักขึ้น
ชวนให้ผมเริ่มโยกสะโพกตาม เกี่ยวขาข้างนึงไปที่เอว แต่สุดท้ายก็เกร็งหลังไม่ไหว นอนหงายราบลงไปกับพื้นโต๊ะ และพอจุกนมหลุดออกจากปาก คนหิวก็มุดหน้าหาอย่างอื่น
“อ๊ะ ต้วน ฮื้อ”
ขาผมถูกจับแยกออกจากกัน ตามมาด้วยสัมผัสชื้นแฉะ ที่แตะๆเลียๆก่อนจะครอบลงตรงหัวของส่วนอ่อนไหว
มันเสียววูบวาบไปทั่วท้องน้อยจนผมเผลอกระทืบเท้าลงกับพื้นโต๊ะ เสียวจนผมต้องยกเท้าขึ้นไปจิกไว้บนไหล่เขาทั้งสองข้าง
ความอุ่นชื้นครอบลึกลงมาเรื่อยๆจนสุด ปรนเปรอให้ผมไม่หยุด สัมผัสจากปากเขา
ไม่ว่าจะเลื่อนไปโดนจุดไหน ก็รู้สึกวูบวาบไปหมด
“ฮื้อ” ผมร้องเสียงหลง เมื่อปลายลิ้นซุกซนลากลงต่ำ มายังช่องทางด้านหลัง
จุดที่ผมเคยห้าม ปลายลิ้นชื้นแฉะตวัดเลียรัวอย่างเอาแต่ใจ
“นิ่งๆ” เสียงคำรามต่ำในลำคอพร้อมกับมือที่ล็อคขาแน่น เพียงเพราะแค่ผมกระตุกหนีมันด้วยความเสียวที่มีมากเกิน
ผมรู้ดีว่าต่อให้หนียังไงก็ไม่พ้น และตัวผม ก็ไม่เคยปฏิเสธความต้องการของตัวเองได้เหมือนกัน
จิกผมอีกฝ่ายกดลง
“ตรงนั้น ซี้ด ต้วน ซี๊ด
อ๊ะ” กดลงอีก
เหตุผลที่ผมไม่ห้าม และอาบน้ำรอ…
พอใจแล้วคนเอาแต่ใจก็ผละออก เลียซ้ำอีกสองสามครั้งก่อนจะแทนที่ลิ้นด้วยนิ้วที่สอดลึกเข้ามา
ส่วนปาก ก็กลับมาครอบครองส่วนอ่อนไหวของผมตามเดิม
“ฮื้อออ” ผมร้องหนัก เมื่อปากกับนิ้วของพี่สิงเริ่มทำงานประสานกัน จนตอนนี้สะโพกผมจะไม่อยู่ติดพื้นแล้ว
เสียว ไม่ไหว เสียวมากจนกลัวว่าตัวเองจะปลดปล่อย
“เดี๋ยวพี่ อ๊ะ พอก่อน”
พยายามกระเถิบถอยหนีให้พ้นจากปากและนิ้วของอีกฝ่าย แต่พี่มันกลับขยับตามมาเรื่อยๆ
รุกหนักขึ้นเรื่อยๆ
“มะ ไม่ไหว คริส คริสอยากพร้อมกัน
อ๊ะ” กลั้นใจพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไป
จังหวะรัวเร็วค่อยผ่อนลง พี่สิงปล่อยให้ผมเป็นอิสระ ก่อนจะก้มลงปลดกระดุมเสื้อ ผมเลยพยุงตัวขึ้นนั่ง
ช่วยปลดซิบกางเกงให้บ้าง ส่วนนั้นของพี่สิงขยายใหญ่จนเห็นเส้นเลือดชัด ไม่รู้จะทนอดอดกลั้นไปไหน
ชอบทำให้ผมถึงฝั่งก่อนทุกที ผมก้มหน้าลงเตรียมจะใช้ปากให้ แต่มือเรียวสีเข้มกลับห้ามไว้
โดยการจับขาผมทั้งสองข้างแยกออก จับส่วนนั้นมาจ่อตรงปากช่องทาง แล้วค่อยดันให้ลึกเข้ามา
“เจ็บมั้ย” ผมส่ายหน้า กอดรอบคออีกฝ่ายไว้หลวมๆ เราต่างโน้มตัวเข้าหากันอย่างโหยหา
ขณะที่ร่างกายเรารวมกันเป็นหนึ่ง ในจุดที่ลึกที่สุด พี่สิงเริ่มขยับจากเชื่องช้าไปเป็นแรง
ส่งผลให้ขาโต๊ะครูดไปกับพื้นตามจังหวะกระแทกที่ส่งเข้ามา
กึกกัก กึกกัก กึกกัก เสียงดังน่าอาย
จนผมกลัวว่าห้องข้างล่างจะได้ยิน
“ต้วน” คนยืนจับขาผมไปพาดไว้ที่แขนพร้อมกับประคองหลังให้ขยับมาอยู่ตรงขอบโต๊ะ
ผมก้มลงมองท่อนเอ็นท่อนใหญ่ที่เคลื่อนไหวเข้าออกอยู่ตรงช่องทางอย่างแนบชิด เข้าสุด
ออกสุด ทุกครั้งที่มันสอดเข้ามาลึก ผมรู้สึกดีมากจนต้องปล่อยให้เสียงครางเครือหลุดออกมา
พี่สิงเชยคางผมขึ้นให้ไปรับจูบ
“อืมห์” ดีจัง ดีมาก เว้นอย่างเดียวที่ตอนนี้ผมเริ่มจะเจ็บสะโพกแล้ว
เพราะมันเสียดสีไปกับพื้น แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่อยากให้เขาหยุด
อยากให้เข้ามาอีก ลึกอีก แรงกว่านี้ ก็ยังได้อีก
แต่พี่สิงก็ยังคงเป็นพี่สิง
ที่จะนึกถึงผมก่อนเสมอ มือเรียวแข็งแรงละจากการพยุงหลัง เปลี่ยนเป็นมาสอดรองไว้ใต้สะโพก
“อ๊ะ พี่ ไม่เจ็บ มือหรอ
ซี้ด” ผมถาม ขณะที่พี่สิงเริ่มผ่อนแรงลงเป็นเชื่องช้า
“ดีกว่าคริสเจ็บค่ะ”
ว่าจบก็ก้มหน้าลงมาจูบต่อ ผมเอียงหน้ารับทันที
ดูดดึงริมฝีปากอีกฝ่ายทั้งที่หัวใจทำงานหนัก เขายังคงเป็นพี่สิงที่แสนจะรักและทะนุถนอมผมเสมอ
จังหวะรักเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง เนิบนาบ ค่อยเป็นค่อยไป
พร้อมกับรสจูบแสนหวานที่ผมอยากให้อยู่ไปอีกนานแสนนาน เราพลอดรักกันอยู่ตรงนี้อีกนานหลายนาทีก่อนที่พี่เขาจะละออกมาถาม
“เข้าห้องมั้ยคะ”
พอผมพยักหน้า พี่สิงก็อุ้มขึ้น แต่แทนที่จะได้เข้าห้องอย่างว่า คนเจ้าเล่ห์กลับเป็นฝ่ายย้ายตัวเองไปนั่งบนโต๊ะ
แล้วสลับให้ผมมาอยู่บนตักแทน
“ก่อนเข้าห้องน๊า”
น้ำเสียงออดอ้อน แต่สายตาเป็นประกายฉายความต้องการรุนแรง
คนหื่นจับสะโพกผมโยกขึ้นโยกลงช้าๆ เหมือนจะสอนว่าให้ทำแบบนี้ๆ
“ซี้ด อ่าห์ ที่รัก”
คนถูกกระทำเชิดหน้า กัดปาก เมื่อผมโยกขยับตามจังหวะที่เขาสอน
มือเรียวสองข้างจับสะโพกผมโยกให้เป็นไปดั่งใจ แรงขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่มจะไม่ไหว
“ต้วน ซี้ด อ๊ะ ซี้ด อ๊ะ”
จิกเท้าลงกับพื้น จิกเล็บลงกับไหล่ ลืมไปแล้วว่าที่นั่งหันหลังอยู่นี่มันสูงแค่ไหน
“คริส อ่าห์ คริส ซี้ด
คริส ซี้ด” อีกฝ่ายก็เรียกหาชื่อผมไม่หยุดปาก
ขบกรามจนขึ้นเป็นสัน กัดฟันดังกรอด หายใจหอบหนัก มือขยำบีบสะโพกผมโยกขึ้นลงถี่ยิบ
“ซี้ด อ๊ะ ซี้ด มะ
ไม่ไหว” ผมกระตุกตอดรัดเขาพร้อมกับปลดปล่อยออกมา
น้ำสีขาวขุ่นพุ่งทะลักเลอะหน้าท้องสีเข้มแน่นกล้าม ผมยังคงกระตุกต่อเนื่องอย่างควบคุมไม่ได้
ก่อนที่เขาจะกดผมลงกับตัก กดไว้แนบแน่น แน่นิ่ง ผมฟุบหน้าลงกับไหล่
รู้สึกถึงความอุ่นชื้นที่ฉีดพ่นเข้ามาในช่องทาง เรานั่งกันอยู่แบบนี้อีกเป็นพักก่อนที่พี่สิงจะเป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมา
“ว่าแล้ว
คนทำอร่อยกว่าเค้กอีก” ผมได้แต่หยิกหลังอีกฝ่าย
เพราะยังหายใจไม่ทัน
“โอ๊ย เจ็บ… กินเค้กอีกป่ะ” ถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี พี่สิงใช้นิ้วจุ่มลงบนหน้าเค้กก้อนเดิม
จ้วงใส่ปากตัวเองรัวๆ สงสัยคราวนี้จะหิวจริง เพราะใช้แรงไปเยอะ
“แบ่งมั่งดิ” พอหายเหนื่อยแล้วผมก็กลับมานั่งหลังตรงได้ ขอกินเค้กบ้าง
พี่มันก็เอื้อมไปหยิบมาให้
“คำใหญ่ไป” ผมว่า คนป้อนเลยยัดคำนั้นเข้าปาก เตรียมจะหยิบคำเล็กมาให้ใหม่ แต่ผมจับมือเขาไว้ก่อน
จับมาโอบไว้รอบหลังผม แล้วโน้มหน้าลงไปกินเค้กจากปากเขา แบบนี้ต่างหาก
เค้กที่ผมอยากกิน
“ยั่วหรอ” ไม่แค่ถาม ส่วนนั้นของคนหื่นยังตื่นขึ้นมาพร้อมใช้งานแล้วอีกด้วย
จากที่มันย่อส่วนลงจนเกือบหลุด ก็กลับมาขยายใหญ่จนเต็มช่องทางผมตามเดิม
“โดนแน่” ว่าจบก็อุ้มผมลุกขึ้น ถึงจะเซไปหลายก้าว แต่คนหื่นก็พาผมเข้าห้องมาได้อย่างไว
ผมถูกวางลงให้นอนหงายไปกับเตียง ตามด้วยร่างกายเขาที่ทาบทับ ริมฝีปากบางหยักบดจูบผมพร้อมกับสอดลิ้นเข้ามา
รสเค้กหวานหอมชวนให้ผมส่งลิ้นไปตักตวงจากเขาบ้าง ช่วงล่างของเราเริ่มขยับเข้ากันอีกครั้ง
บทรักระหว่างเราเกิดขึ้นอีกรอบ
“อ่าห์ คริส ที่รัก
ซี้ด”
“อื้ม ซี้ด ต้วน
ต้วนจ๋า อ๊ะ”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น